ทำความรู้จัก ขนมเทียน ขนมไทยลูกครึ่งจีน มีหลายชื่อเรียก ขนมสำหรับเทศกาลต่างๆ

ขนมเทียน หรือ ขนมนมสาว เป็นขนมที่ทำจากแป้งข้าวเหนียว มีไส้ ห่อด้วยใบตองเป็นทรงสามเหลี่ยมหรือทรงพีระมิด ทางภาคเหนือเรียกว่า ขนมจ็อก ทางภาคใต้เรียกว่า ขนมเถ้าเป้า ส่วนภาษาอีสานเรียกว่า ขนมหมก ส่วนในภาษาจีนแต้จิ๋วเรียกด้วยคำภาษาไทยว่า หนุมเทียน ซึ่งเป็นขนมที่นิยมใช้ในงานบุญ โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ แต่เดิมมีไส้มะพร้าวและไส้ถั่วเขียว แต่ในปัจจุบันมีการดัดแปลงไส้ออกไปหลากหลายมาก ชาวจีนใช้ขนมเทียนในการไหว้บรรพบุรุษช่วงวันตรุษและวันสารท ไส้เป็นถั่วเขียวกวนบด ถ้าแบบเค็มจะใส่พริกไทยและเกลือ แบบหวานใส่มะพร้าวและน้ำตาลลงไปเพิ่ม ถ้าตัวแป้งทำด้วยแป้งถั่วเรียกขนมเทียนแก้ว รู้จักขนมเทียนกันแล้ว เรามาดูวัตถุดิบ และวิธีการทำขนมเทียนไส้เค็มกันค่ะ

ส่วนผสมไส้ขนมเทียน

• ถั่วเขียวซีกล้างให้สะอาด 500 กรัม
• กระเทียมปอกเปลือก 100 กรัม
• พริกไทย 4 กรัม (1/2 ช้อนโต๊ะ)
• ขิงแก่ 70 กรัม
• ตังกวยแฉะ หรือ ฟักเชื่อมตากแห้ง 70 กรัม
• น้ำตาลทราย 120 กรัม
• เกลือ 13 กรัม
• ใบตองล้างสะอาดผึ่งให้แห้ง
• น้ำมันพืช สำหรับเคลือบขนม ตอนห่อ

ส่วนผสมแป้งขนมเทียน

• แป้งข้าวเหนียว 1,000 กรัม
• ชิวคัก (หญ้านางนวล) 30 กรัม
• น้ำตาลปี๊ป 900 กรัม
• น้ำต้มชิวคัก/น้ำเปล่า 300 กรัม

วิธีทำไส้ขนมเทียน

• นำถั่วเขียวซีกมาล้างน้ำให้สะอาด ล้างหลายๆน้ำหน่อยนะคะเพื่อนๆ ถั่วจะได้สะอาด โดยสังเกตจากสีของน้ำ ล้างจนน้ำใสเลยนะคะ นำถั่วที่ล้างแล้ว แช่น้ำไว้
• ระหว่างนี้ให้นำ ชิวคัก หรือ หญ้านางนวล โดยให้นำมาเฉพาะใบมาล้างให้สะอาด และนำมาต้มในน้ำเดือด
• ต้มชิวคัก หรือ หญ้านางนวลให้เปื่อยนุ่มโดยใช้ไฟกลาง ปริมาณน้ำให้ท่วมหญ้าพอดี อย่าให้น้ำน้อยเกินไป
• หลังจากต้มจนหญ้าชิวคักนิ่มน้ำเริ่มงวดแล้วถือว่าเป็นอันใช้ได้ ดับไฟตั้งพักไว้ให้เย็น
• ระหว่างนี้นำถั่วซีกที่แช่น้ำไว้ ประมาณ 1 ชม. เทน้ำออก แล้วนำไปนึ่งในน้ำเดือดจัด โดยใช้ผ้าขาวบางปูรองพื้นไว้แล้วนำถั่วเขียวซักนึ่งปิดฝาไว้ ประมาณ 30 นาที
• ระหว่างรอนึ่งนำส่วนผสมสำหรับผัดไส้มาผสมกันดังนี้ กระเทียม พริกไทยขาว น้ำตาลทราย เกลือ นำมาโขลกรวมกัน
• เอาล่ะ มาเริ่มผัดไส้กันค่ะ โดยตั้งกระทะใช้ไฟอ่อน ใส่น้ำมันพอประมาณนำ ส่วนผสมที่เราโขลกไว้ มาผัดลงในน้ำมัน ใช้ไฟกลางเจียวให้กระเทียมพริกไทยหอม ระวังติดกระทะนะคะ หลังจากนั้นใส่น้ำตาลทราย เกลือ และเติมน้ำไปเล็กน้อยคนจนกว่าน้ำตาลเกลือละลาย
• เกลือกับน้ำตาลละลายแล้ว ให้นำถั่วเขียวซีกที่ตั้งพักไว้มาผสมรวมกันในกระทะ เร่งไฟใช้ไฟกลางและหมั่นคน อาจมีติดกระทะบ้างต้องคอยขูดอย่าให้ติดกระทะนะคะเพื่อนๆ ผัด คน บี้ จนให้เป็นเนื้อเดียวกัน
• เมื่อผัดส่วนผสมจนเริ่มแห้งให้หรี่ไฟอ่อน ผัดจนไส้มีความแห้งแบบหมาดๆ อย่าให้แห้งเกินไปเพราะจะปั้นยาก
• ใส่ตังกวยหั่นเต๋า แฉะ ขิงแก่หั่นเต๋า ใช้ไฟกลางคลุกเคล้าให้เข้ากับถั่วที่ผัดไว้ ดับไฟตั้งพักไว้ให้ไส้อุ่น
• ปั้นไส้เป็นวงกลมตั้งไว้

วิธีทำแป้งขนมเทียน

• นำหญ้าชิวคักที่แช่น้ำไว้มาสับให้ละเอียด
• แป้งข้าวเหนียว น้ำตาลปี๊ป หรือ น้ำตาลมะพร้าว ชิวคัก น้ำต้มชิวคัก น้ำเปล่าอย่าใส่เยอะเกินไป มาผสมกัน นวดด้วยมือน้ำจะมีความค้น
• ใส่แป้งข้าวเหนียว เนื้อชิวคัก และนำน้ำต้มชิวคักมาผสมทีละน้อย ระวังอย่าใส่น้ำเยอะเกินนะคะ
• นวดแป้งให้เนียนดี โดยลองกดให้แบนแล้วดูว่าเหนียวดีหรือไม่

วิธีห่อขนมเทียน

• เตรียมใบตองนำใบตองล่างให้สะอาดผึ่งให้แห้ง นำแป้งขนมเทียนขึ้นมาพอดีคำกดให้แบน อย่าให้หนาหรือบางจนเกินไป
• นำไส้ที่ปั้นไว้เป็นก้อนกลมมาห่อด้วยแป้งพอดีคำ
• นำใบตองที่ตัดไว้เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า 2 ใบมาทับกันเป็นรูปบวก แล้วกดทำเป็นกรวยนำขนมชุปน้ำมันพืชบางๆ มาวางลงในใบตอง กดขนมให้แน่นๆ นะคะ จากนั้นห่อให้เป็นทรง 3 เหลี่ยม เก็บปลายสอดเข้าให้เรียบร้อย
  ขั้นตอนนี้อาจยากสำหรับคนที่ไม่เคยทำกระทงห่อขนมเล็กน้อยนะคะเพื่อนๆ

วิธีนึ่งขนมเทียน

• ตั้งไฟแรงเพื่อต้มน้ำให้เดือด จากนั้นเมื่อน้ำเดือดแล้วให้นำขนมเทียนที่เตรียมไว้ลงนึ่ง โดยแนะนำเวลาตั้งขนม ควรเว้นให้มีรูประบายน้ำขึ้นมาเพื่อให้ขนมสุกทั่วกัน ไม่ด้าน
• นึ่งประมาณ 45 – 60 นาที หรือนึ่งจนกว่าจะสุกดี ขนมที่นำมานึ่งยิ่งเยอะ ยิ่งต้องนึ่งนาน
• สังเกตว่าแป้งใสแล้วก็ถือว่าขนมสุกแล้ว นำมาผึ่งเพื่อคลายความร้อน จากนั้นก็พร้อมเสิร์ฟค่ะ

แนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วิธีทำขนมเทียน

• ประโยชน์ของชิวคักนั้น ทำให้ขนมนุ่ม และน้ำที่ใช้ในการต้มชิวคัก สามารถนำมาผสมกับแป้งขนมเทียนเพื่อ นำมาปั้นก้อนได้
• วิธีการนำตังกวยแฉะมาใช้สำหรับผัดไส้ ให้นำตังกวยแฉะไปผึ่งลมตากแห้งก่อน เพื่อให้เวลาที่เราผัดไส้ ตังกวยแฉะหรือฟักเชื่อมตากแห้งนี้ไม่ละลายหายไปกับน้ำหมด
• วิธีสังเกตว่าถั่วเขียวซีกสุกแล้วหรือไม่ ให้ลองนำถั่วเขียวที่นึ่งแล้วมาบี้ที่นิ้วดู ถ้าเละนิ่ม แสดงว่าสุกแล้ว
• การนำถั่วเขียวซีกมาผัดไส้ อย่านำถั่วเขียวซีกที่นึ่งเสร็จพักไว้จนเย็นแล้วมาผัด ถั่วจะไม่นิ่ม ไส้จะไม่ละเอียด ฉะนั้นควรนำมาผัดตอนที่ยังอุ่นๆหรือร้อนอยู่
• สำหรับขนมเทียนไส้เค็มนั้น มี 2 แบบ คือใส่หมูสับ กับไม่ใส่ ถ้าหากใส่หมูสับให้ใส่ตอนที่ผัดกระเทียมพริกไทยนะคะ
• ขนมเทียนที่นึ่งแล้วหากเราดับไฟขณะที่ขนมยังไม่สุกดี จะทำให้แป้งด้าน และไม่สามารถนำมานึ่งใหม่ให้สุกได้ ดังนั้น การตรวจสอบว่าขนมสุกแล้วหรือไม่ ให้รีบเปิดฝาแล้วนำขนมออกมาขิ้นเดียวเพื่อตรวจ และรีบปิดฝาเพื่อนึ่งขนมส่วนที่เหลือต่อทันที
  ควรเน้นนึ่งให้นาน เพื่อความมั่นใจนะคะเพื่อนๆ
• ขนมหากทานไม่หมด สามารถเก็บเข้าตู้เย็น พอจะทานให้นำออกมาอุ่นนึ่ง หรือเข้าไมโครเวฟก็ได้นะคะ

จบกันไปแล้วนะคะกับ วิธีทำขนมเทียนไส้เค็ม หวังว่าวิธีทำขนมในวันนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังอยากหาสูตรขนมไปประกอบอาชีพสร้างรายได้กันนะคะ สำหรับวันนี้ต้องลากันไปก่อนแล้ว พบกันใหม่บทความหน้า สำหรับวันนี้สวัสดีค่า

The post วิธีทำขนมเทียนไส้เค็ม ทำกินได้ ทำขายดี appeared first on ขนมหวาน.

แนะนำวิธีทำขนมบ้าบิ่นโบราณ กรอบนอกนุ่มใน หอมมะพร้าว

ขนมบ้าบิ่น เป็นขนมที่ใช้มะพร้าวเป็นหลัก ผสมกับแป้งข้าวเหนียว หรือบางที่ก็เพิ่มสีสันโดยการใช้แป้งข้าวเหนียวดำ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปดูกันดีกว่าค่ะว่า ขนมบ้าบิ่นโบราณ ในวันนี้มีวิธีทำขนมยังไงบ้าง ไปดูกันเลย

สูตรขนมบ้านบิ่น

• มะพร้าวขูดแนะนำให้ใช้มะพร้าวทึนทึก ปริมาณ 450 กรัม
• แป้งข้าวเหนียว หรือ แป้งข้าวเหนียวดำ 220 กรัม
• น้ำตาลทราย 160 กรัม หากไม่ชอบหวานสามารถเพิ่มลดตามความชอบนะคะ
• เกลือ 1/2 ช้อนชา
• น้ำ 150 กรัม

วิธีทำขนมบ้าบิ่น

• นำมะพร้าวมาขูดเอาเนื้อ ให้เป็นเส้นฝอย
• นำส่วนผสมที่เตรียมไว้ทั้งหมดมาผสมกัน แต่น้ำเปล่าให้ค่อยๆเทลงไป อย่าเทลงไปทั้งหมด
  เพราะ อาจทำให้ขนมเปียกเกิน
• นวดส่วนผสมทั้งหมดให้เกลือ น้ำตาลละลายดี นวดจนแป้งเกาะกับมะพร้าวไม่เหลวจนเกินไป
  ให้พอมีน้ำ อย่าให้แป้งแห้งจนเกินไป เพราะถ้าแห้งเกินไม่มีน้ำเลย ขนมจะกระด้างไม่อร่อย
• เตรียมกระทะก้นแบนหรือถ้าเพื่อนๆมีเตาแบบเตาทำขนมโตเกียว ก็ยิ่งดีค่ะ เปิดไฟกลางให้กระทะร้อน
  ทาน้ำมันให้ทั่วผิวกระทะหรือภาชนะสำหรับบทอด
• ตักขนมหยอดลงกระทะ ใช้ขนาดตามความชอบ หรือที่ตั้งใจจะนำไปขายนะคะ
• รอจอขนมสุกเหลืองด้านหนึ่งให้กลับด้านขนม และใช้ตะหลิวกลับด้านขนม
• ทอดจนแป้งข้างในสุก โดยสังเกตจากกดลงไปที่ขนมแล้ว ขนมเนื้อแน่น ไม่เหลว ไม่มีน้ำออกมาก็สามารถตักมาพักไว้ได้เลยค่ะ

แนะนำ วิธีทำขนมบ้าบิ่น เพิ่มเติม

• หากชอบขนมบ้าบิ่นเนื้อเหนียว ให้เลือกมะพร้าวเนื้ออ่อนค่อนไปทางแก่
• หากชอบให้ขนมบ้าบิ่นมีแป้งเยอะ ให้เพื่อนๆเพิ่มแป้ง น้ำตาล เกลือ นะคะ เพราะถ้าไม่เพิ่มน้ำตาลกับเกลือ ขนมจะจืดไม่อร่อย
• ใช้ไฟกลางนค่อนไปทางอ่อน จะทำให้ขนมสุกทั่วกัน อย่าใช้ไฟกลางค่อนไปทางไฟแรง ขนมจะสีเข้มและสุกไม่เท่ากัน
• หากเพื่อนๆ คนไหนมีฝาครอบ ระหว่างทอดสามารถนำฝามาปิดครอบไว้เพื่อให้สุกร้อนถึงข้างในเนื้อขนม
• ขนมบ้าบิ่น หากทอดไม่หมดสามารถเก็บใส่กล่องปิดฝานำเข้าตู้เย็นได้เลยจ้า

จบกันไปแล้วนะคะ สำหรับ สูตรบ้าบิ่นโบราณ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าวิธีทำขนมในวันนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆชาวขนมหวานไม่มากก็น้อยนะคะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้า สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ

The post 5 ส่วนผสมง่ายๆ สำหรับ สูตรบ้าบิ่นโบราณ appeared first on ขนมหวาน.

ความเป็นมาของ ขนมไข่เต่า หรือ ขนมไข่นกกระทา

สำหรับขนมไข่นกกระทา หรือ ขนมไข่เต่า ประวัติความเป็นมานี้เดิม เรียกว่า ขนมไข่เต่า แต่เพราะ ไข่เต่าเป็นสัตว์สงวน จึงเปลี่ยนชื่อ เป็นขนมไข่นกกระทา ขนมไข่เต่ามีประวัติมายาวนานเรียกว่วฮิตมาตั้งแต่สมัยสุโขไทย จน ถึงปัจจุบันกันเลยทีเดียว เพราะ ด้วยความที่ทำง่าย รสชาติอร่อย หวานมัน กรอบนอก นุ่มใน ทานเพลิน ทุกเพศทุกวัย ชอบทาน จึงเป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน

วัตถุดิบสำหรับทำขนมไข่เต่าหรือไข่นกกระทา ได้แก่

• มันเทศ สีเหลือง 500 กรัม นอกจากนี้เพื่อนๆสามารถสร้างสีสันด้วยการ ใช้มันม่วง มันส้ม หรือมันญี่ปุ่น ก็ได้นะคะ
• แป้งมัน 250 กรัม
• น้ำตาลทราย 165 กรัม ปรับลดตามใจชอบ ต้องดูด้วยนะคะว่ามันที่นำมาใช้มีรสหวานมั้ย
• เกลือ 1 1/2 ช้อนชา
• น้ำกะทิ 80 กรัม อย่าใส่จนหมดนะคะ ให้ทยอยใส่

วิธีทำขนมไข่เต่า หรือ วิธีทำขนมไข่นกกระทา แป้งกรอบนอก นุ่มใน

• นำมันเทศหั่นเป็นชิ้นๆ แต่ไม่ต้องซอยจนเล็กมาก ประมาณ 1 ใน 4 ของฝ่ามือ
• หลังจากหั่นแล้วนำไปนึ่ง หรือ ต้มก็ได้นะคะ ใช้เวลาประมาณ 10 – 15 นาที หรือจนกว่ามันจะสุก
• นำมันที่ได้ไปบดด้วยส้อม หรือ เครื่องบด
• นำแป้งมัน น้ำตาลทราย เกลือ ผสมด้วยมันบด นวดให้เข้ากัน ในที่นี้อาจใช้มือ หรือ ใช้เครื่องตีแป้งก็ได้นะคะ หากใช้เครื่องตีแป้ง ต้องพักและหมั่นแซะแป้งที่ติดขอบอ่างตีให้ผสมกับส่วนผสมกันด้วยนะคะ
  สังเกตว่านวด หรือ ตีจนแป้งกับมัน เข้ากันดีเริ่มจับตัวกันเป็นทราย
• ใส่น้ำกะทิ แต่ให้ทยอยใส่นะคะ ใส่จนสังเกตว่ามันข้น หนืด สามารถปั้นได้เป็นลูกกลมๆได้โดยไม่ยุบตัว ถือว่า เข้ากันดีแล้วค่ะ
• นำส่วนผสมมาปั้นเป็นก้อนกลม ลูกขนาดพอดี
• นำขนมที่ปั้นไว้ ทอดลงกระทะ แนะนำว่า ให้เลือกกระทะใบใหญ่ ก้นลึก และใช้น้ำมันกลางๆ ใช้ไฟกลาง นะคะ เพื่อให้ท่วมขนมพอดี เวลาทอดให้แบ่งทอดนะคะ อย่าทอดทีเดียวหมด
  เวลาใส่ขนมลงไปอย่าใส่ตอนน้ำมันร้อนจัดเลยนะคะ ให้ใส่ตอนที่น้ำมันเริ่มร้อน เพื่อไม่ให้ขนมไหม้ค่ะ
• การทอดขนมไข่นกกระทา ให้ใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อน หมั่นคนขนมเรื่อยๆให้ขนมพองสุกกรอบทั่วกัน สังเกตว่าผิวขนมเริ่มมีความแห้ง ให้ใช้ตะหลิว หรือกระชอนกดลงไปให้ทั่วๆ ไม่ต้องกลัวว่าขนมจะบี้นะคะ ขนมจะต้านแรงกับตะหลิวของเราแล้วจะพองขึ้นอีกค่ะ
• สังเกตว่าขนมพองกรอบ สีเหลืองขึ้นมา ไม่ต้องกดตะหลิวหรือกระชอนแล้วนะคะ แค่คนวนๆไปก็พอค่ะ จากนั้นตักขึ้นพักไว้สะเด็ดน้ำมันค่ะ

แนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วิธีทำขนมไข่นกกระทา หรือ ขนมไข่เต่า

• หากเพื่อนๆเลือกใช้มันที่มีรสหวาน เช่น มันญี่ปุ่น เพื่อนๆต้องไปลดอัตราส่วนน้ำตาลลงด้วยนะคะ
• วิธีดูว่ามันที่นำไปนึ่งหรือต้ม สุกแล้วหรือไม่ ให้นำส้อม หรือไม้เสียบลูกชิ้น จิ้มลงไปดูว่า มันนุ่มหรือไม่ ถ้านุ่มแสดงว่าสุกแล้วนะคะ
• เวลาบดมัน แนะนำให้บดตอนมันยังร้อนๆอยู่นะคะ จะได้บดง่ายค่ะ
• หากผสมน้ำกะทิมากเกินไปแล้วส่วนผสมเหลวเกินไป ให้เพิ่มแป้งนะคะ แต่ถ้าขนมร่วนแหลก ให้เติมกะทินะคะ
• คำถามว่า หากส่วนผสมที่ตีเข้ากัน เตรียมนำมาปั้นก้อนแล้ว ปั้นไม่หมด เก็บไว้ได้มั้ย
  คำตอบคือ เก็บได้นะคะ แนะนำว่าให้ปั้นจนหมดแล้วเก็บใส่กล่อง นำเข้าตู้เย็นค่ะ
• ขณะปั้น ไม่ต้องโรยแป้งไว้บนถาดเพื่อกันไม่ให้ติดกัน เพราะ ถ้าเรานวดแป้งพอดีแล้ว ขนมจะไม่ติดกันอยู่แล้ว
• ขณะที่เพิ่งหย่อนขนมลงกระทะ อย่ารีบคนนะคะให้ขนมโดนความร้อนก่อนแล้วค่อยคนนะคะ หลังจากนั้น หมั่นคนนะคะ
• สำหรับเพื่อนๆที่ชอบ ขนมไข่นกกระทะแบบ นิ่ม มีความเหนียว ให้ใส่ไข่ไก่ นะคะ

ก็ผ่านกันไปแล้วนะคะ กับ สูครขนมไข่เต่า หรือ วิธีทำขนมไข่นกกระทา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลในวันนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่ชอบรับประทาน หรือเพื่อนๆที่อยากลองทำขาย สร้างรายได้นะคะ วันนี้ต้องลากันไปก่อนแล้ว คราวหน้าจะเป็นการแนะนำเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับขนมหวาน อย่าลืมติดตามกันนะคะ สวัสดีค่ะ

The post แนะนำ วิธีทำขนมไข่เต่า หรือ ขนมไข่นกกระทา appeared first on ขนมหวาน.

สูตรขนมกล้วย และ ภาษาอังกฤษของขนมกล้วย

ขนมไทยนั้น ต่างชาติให้ความสนใจมากๆเลยนะคะ และ ขนมกล้วย หรือ Steamed Banana Cake ก็เช่นกัน จะเห็นได้จาก youtuber ต่างชาติที่มาเที่ยวเมืองไทย เวลาเจอร้านขนมไทยก็จะรุ้สึกตื่นเต้นกันมาก และประทับใจสุดก็ขนมกล้วยนี่แหละค่ะ ดังนั้น ขนมกล้วยจึงเป็น สตรีทฟู๊ด Street Food ที่เรามักพบกันบ่อยๆ เอาล่ะ เราไปดูวิธีทำขนมกล้วยกันดีกว่าค่ะ

อุปกรณ์สำหรับทำขนม และ ส่วนผสมของขนมกล้วย มีดังนี้

• ใบตอง หรือ ถ้วยตะไล หรือ แม่พิมพ์ซิลิโคน เพื่อเพิ่มความแปลกใหม่ก็ได้นะคะ
• ไม้จิ้มฟัน สำหรับ กลัดใบตองทำเป็นกระทง
• มะพร้าวขูด เลือกเนื้อมะพร้าวอ่อน 200 กรัม
• แป้งข้าวเจ้า 80 กรัม
• แป้งท้าวยายม่อม 80 กรัม
• แป้งมัน 60 กรัม
• หัวกะทิ 300 กรัม
• กล้วยน้ำว้าสุกงอม สังเกตคือเปลือกกล้วยจะดำคล้ำ 400 กรัม
• น้ำตาลทราย 50 กรัม
• น้ำตาลโตนด 120 กรัม
• เกลือ 1 ช้อนชา
• ถุงมือ

วิธีทำขนมกล้วย

• นำกล้วยน้ำว้าสุกงอมปอกเปลือกกล้วยพร้อมลอกเส้นออกและหั่นเป็นแว่นๆ
• ใส่ถุงมือ ขยำกล้วย แต่ไม่ต้องให้ละเอียดเนียนมาก แค่ให้เละเป็นชิ้นเล็กๆ ก็พอ
• ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน แป้งท้าว รวมกันในภาชนะผสมแป้งให้เข้ากัน
• เทหัวกะทิผสมคลุกกับแป้งทั้ง 3 ชนิด อย่าเทจนหมด เทแค่พอให้นวดปั้นให้เป็นก้อนกลม แป้งที่ถูกต้องคือไม่เละ ไม่ติดมือ
• นำหัวกะทิที่เหลือผสมน้ำตาลโตนด น้ำตาลทราย เกลือ คนให้เข้ากันจนส่วนผสมเข้ากัน
• นำหัวกะทิที่ผสมน้ำตาล และเกลือแล้วเทรวมกับแป้งที่นวดไว้ ใช้มือหรือไม้พาย ขยี้ให้แป้งละลายเป็นน้ำ
• นำกล้วยที่บี้หรือขยำไว้ เทลงในแป้งที่ละลายแล้ว ใช้มือหรือไม้พายขยำอีกครั้งหนึ่ง
• ใส่มะพร้าวอ่อนที่ขูดไว้ลงใน น้ำแป้ง
• หยอดใส่ถ้วยตะไล หรือ ในกระทงใบตองที่เตรียมไว้ โดยอย่าใส่จนเต็มถ้วย หรือล้น เพราะเวลาที่นำไปนึ่ง ขนมจะฟูขึ้นมาทำให้ล้นดูไม่สวยงาม
• นึ่งไฟแรง 15 นาที
• ลองนำไม้จิ้มที่เนื้อขนม ถ้าไม่มีแป้งติดออกมากับไม้แสดงว่าสุก หรือสังเกตเนื้อขนม ถ้าใสสวยนุ่มๆ ก็ถือว่า พร้อมนำขึ้นมารับประทานค่ะ

คำแนะนำ สำหรับ สูตรขนมกล้วย

• แนะนำว่า เวลารับประทาน ควรรอให้ขนมเย็นตัวลงก่อนซักนิดนะคะ เวลาแกะจะได้ไม่เละค่า
• สำหรับเพื่อนๆ ชาวขนมหวาน ที่สนใจ นำ สูตรขนมกล้วยไปสร้างอาชีพขายขนม แนะนำให้เพิ่มมูลค่าโดยหั่นกล้วยน้ำว้าเป็นแว่น วางบนขนมก่อนนึ่ง โดยถ้าเป็นด้วยตะไล ใส่กล้วย ซัก 1 แว่น ถ้าเป็น กระทงใส่ซัก 2 แว่นก็ได้นะคะ ตามด้วยมะพร้าวอ่อนที่เราขูดไว้ ถ้าเหลือ ค่ะ

จบกันไปแล้วนะคะเพื่อนๆ กับ วิธีการทำขนมกล้วย ที่นำมาฝากเพื่อนๆ ในวันนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สูตรขนมกล้วย ในวันนี้จะเป็นประโยชน์ ช่วยต่อยอดเป็นขนมไทยสร้างอาชีพ ที่ทั้งทำง่าย และ ขายดีให้กับเพื่อนๆนะคะ วันนี้ต้องลากันไปก่อนแล้วพบกันใหม่บทความหน้า สำหรับวันนี้ สวัสดีค่า

The post แนะนำ วิธีทำขนมกล้วย ขนมไทย สตรีทฟู๊ด appeared first on ขนมหวาน.

มาดูกันว่า กุยช่ายทอด ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด มีวิธีทำอย่างไรบ้าง

กุยช่าย ถือว่าเป็นผักที่มีประโยชน์มากๆเลยนะ มีฤทธิ์เป็นสมุนไพร บำรุงการไหลเวียนของเลือด แก้หวัด ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ตอนเด็กๆเราเป็นคนนึงนะที่ไม่ชอบทานผักเลย กุยช่ายด้วย เพราะค่อนข้างมีกลิ่นฉุน แต่ก็สังเกตเห็นว่าผู้ใหญ่ในครอบครัว มักชอบซื้อมาทานกัน ราดน้ำจิ้มให้ชุ่มๆ แต่มักจะรับประทานแบบนึ่งกัน ปัจจุบัน พอเริ่มมีแบบทอดหั่นเป็นลูกเต๋าให้จิ้มรับประทานง่ายขึ้น ประกอบกับเริ่มโต ทานผักได้มากขึ้น จึงหันมาลองทานดู มันอร่อย ทานง่าย เหมาะเก็บคนไม่ชอบทานผัก เพราะกุยช่ายทอด แป้งมีความกรอบ รวมถึงผักกุยช่ายที่โดนความร้อนจนสุกไม่มีกลิ่นฉุน ราดน้ำจิ้มรสเด็ด เผ็ดสะท้าน เพิ่มความอร่อยเต็มคำแล้ว ต้องเปิดใจให้กับเมนูนี้จริงๆค่ะ และสูตรขนมกุยช่ายทอดที่เราจะนำเสนอในวันนี้ เป็นสูตรสร้างอาชีพ ให้เพื่อนไที่กำลังมองหาอาชีพหรืออยากมีรายได้เสริม ได้ลองนำไปทำกัน ต้นทุนต่ำ ขายดี ได้กำไรครึ่งต่อครึ่งเลยนะคะ ไปดูกันค่ะว่า แนะนำขนมสร้างอาชีพ กุยช่ายทอด น้ำจิ้มสูตรเด็ด ในวันนี้ มีขั้นตอนยังไงบ้าง

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

อ่างผสม ถาดเล็กสำหรับนึ่งแป้ง ถาดใหญ่สำหรับวางแป้งที่นึ่งเสร็จแล้ว ไม้พาย แปรงทาน้ำมัน ใบตองรองถาดสำหรับนึ่ง

ส่วนผสมแป้งกุยช่าย

• แป้งข้าวจ้าว 200 กรัม
• แป้งมัน 150 กรัม
• น้ำตาลทราย 4 ช้อนชา
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
• น้ำที่ได้จากการคั้นกุยช่าย + น้ำเปล่า รวมกันให้ได้ 500 กรัม
• น้ำเปล่า 300 กรัม

เครื่องปรุงสำหรับทำไส้กุยช่าย

• ใบกุยช่ายหั่นหยาบ 1 กิโล
• น้ำตาลทราย 55 กรัม
• พริกไทยป่น 7 กร้ม
• เบกกิ้งโซดา 15 กรัม
• เกลือป่น 5 กรัม
• น้ำมันพืช 4ช้อนโต๊ะ
• กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
• ซิอิ๊วขาว 20 กรัม
• ซอสหอยนางรม 30 กรัม

น้ำจิ้มขนมกุยช่าย

• น้ำตาลทรายแดง 290 กรัม
• ซีอิ๊วดำหวาน ฉลากส้ม 65 กรัม
• ซีอิ๊วขาว 35 กรัม
• เกลือป่น 10 กรัม
• น้ำส้มสายชู 220 กรัม
• พริกแดงโขลก 13 กรัม

วิธีทำ

1. นำต้นกุยช่ายล้างให้สะอาดผึ่งลมให้แห้ง แล้วนำมาหั่นหยาบ หรือประมาณ 1 เซนติเมตร จากนั้น นำส่วนผสมไส้ทั้งหมดรวมทั้งกุยช่ายเทลงในกาละมังใหญ่ ใช้มือขยำให้เข้ากันพอส่วนผสมเข้ากันดีแล้วพักไส้ไว้ 30 นาที
2. ระหว่างรอให้ผักดูดซับเครื่องปรุง ทำน้ำจิ้มรสเด็ดกันพลางๆนะคะ เริ่มจากเตรียมหม้อเพื่อกวนน้ำจิ้ม ใส่น้ำตาลทรายแดง ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว เกลือป่น น้ำส้มสายชู จากนั้นคือนำไปตั้งไฟอ่อนๆ คนให้น้ำตาลละลาย อย่าให้น้ำจิ้มเดือดนะคะ เพราะอาจทำให้น้ำจิ้มข้นและมีกลิ่นน้ำตาลไหม้ได้ รอจนน้ำจิ้มเย็นตัวลง จึงใส่พริกโขลกที่เตรียมไว้ลงไป
3. จากนั้นกลับมาที่ผักกุยช่ายที่เราพักไว้ 30 นาที บีบผักคั้นน้ำที่เราหมักไว้ออก โดยให้น้ำออกให้หมด โดยน้ำที่ได้จากการคั้นผักนั้น เราจะไปผสมกับแป้งนะคะ อย่าเพิ่งทิ้ง
4. เริ่มทำแป้ง นำแป้งข้าวจ้าว แป้งมัน น้ำตาลทราย เกลือป่น เทลงในอ่างผสม คนส่วนผสมให้เข้ากัน
5. นำน้ำที่คั้นกุยช่ายที่ผสมน้ำแล้วได้ 500 กรัม ไปตั้งไฟให้เดือด หลังจากเดือดแล้ว ปิดไฟ นำไปราดบนแป้งที่ผสมไว้ในอ่างผสม จากนั้นคน แล้วใส่น้ำ 300 กรัมที่เตรียมไว้ เทใส่ลงไปแล้วกวนอีกครั้งให้เข้ากัน เพื่อให้แป้งเป็นเนื้อครีม หากแป้งเป็นเม็ดสามารถใช้ทัพพีบี้ ได้
6. นำผักที่เราพักไว้ผสมลงในแป้ง แป้ง 1 ส่วนต่อผัก 3 ถ้วยตวง ผักที่เหลือเราสามารถนำเก็บใส่ตู้เย็น ไว้ทำวันต่อไปก้ได้ คนผักกับแป้งให้เข้ากัน
7. เตรียมถาดที่รองใบตอง ทาน้ำมันไว้ เพื่อไม่ให้แป้งติด นำแป้งกุยช่าย ตักใส่ถาด เกลี่ยหน้าไว้ไม่ต้องให้หนามาก เพื่อให้ตอนนึ่งได้สุกทั่วถึงกัน
8. เตรียมหม้อนึ่งตั้งไฟรอให้น้ำเดือด เมื่อน้ำเดือดแล้ว นำถาดกุยช่าย ลงนึ่งได้เลยค่ะ รอประมาณ 20 นาที หลังจาก 20 นาที ทดสอบว่าแป้งสุกหรือไม่ โดยใช้ไม้จิ้มลูกชิ้นหรือส้อมจิ้มลงไปเพื่อดูว่ามีแป้งเหลวๆติดอยู่หรือไม่ ถ้าไม่มีแสดงว่าสุกดีแล้ว
9. นำถาดขมมออกมาตั้งพักไว้ให้เย็น ประมาณ 10 นาที สาเหตุที่ต้องรอให้เย็น เพราะรอให้แป้งบริเวณขอบหดตัว เพื่อให้สามารถร่อนออกจากถาดได้ง่าย นำไม้พายทาน้ำมันแซะขนมจากด้านข้าง เตรียมถาดอีกใบทาน้ำมันไว้ เตรียมคว่ำถาดขนมที่เราแซะไว้ลงบนถาดใหญ่ที่เราเตรียมไว้ ลอกเอาใบตองออก หั่นขนมเป็นสี่เหลี่ยม
10. นำขนมกุยช่ายสี่เหลี่ยมที่ได้ ไปทอด จนเหลืองกรอบดีแล้ว จัดใส่จาน เสิร์ฟกับน้ำจิ้ม พร้อมขายค่ะ

เรียบร้อยไปแล้วนะคะกับ แนะนำขนมสร้างอาชีพ กุยช่ายทอด น้ำจิ้มสูตรเด็ด เราหวังว่าขนมสร้างอาชีพ ในเรานำเสนอในวันนี้ จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่อยากมีรายได้ หาเงิน หารายได้เสริม หรือกำลังประสบปัญหาเรื่องว่างงาน ไม่มีอาชีพนะคะ kanomwhan.com ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆทุกคนอย่าเพิ่งยอมแพ้นะ คราวหน้าจะนำเสนอสูตรขนมอะไร หรือแนะนำร้านขนมที่ไหน อย่าลืมติดตามกันนะคะ วันนี้ลาไปก่อนแล้วสวัสดีค่า

The post แนะนำขนมสร้างอาชีพ กุยช่ายทอด น้ำจิ้มสูตรเด็ด appeared first on ขนมหวาน.

เรามาดูวิธีทำลูกชุบ ขนมไทยทำง่าย แต่ขั้นตอนเยอะ กันดีกว่าค่ะ

ลูกชุบ ขนมไทยที่ตอนเด็กๆ เรามักเข้าใจว่า เรากินพริก กินมะเขือได้ ซึ่งจริงๆไส้หวานๆข้างในพริกหรือมะเขือนั้นก็คือ ถั่วกวนนั่นเอง ขนมไทยอย่างลูกชุบ ถ้าทำรับประทานกันในครอบครัว ให้สมาชิกในครอบครัวได้ช่วยเหลือกัน กวน ปั้น ทาสี เคลือบ ถือว่า เป็นช่วงเวลาที่สนุกนะคะ เพลินมากเลย สำหรับคนที่ทำเป็นอาชีพ ความซีเรียสอาจจะเพิ่มขึ้นมาหน่อยตรงขั้นตอนการกวนถั่ว และปั้นเป็นรูปทรงที่อาจจะต้องเหมือนจริงหน่อยถึงจะขายได้ เรามาดูกันค่ะว่า วิธีทำลูกชุบนั้น ทำอย่างไร กับ วิธีทำลูกชุบ ขนมไทย แสนอร่อย สร้างอาชีพ

ส่วนผสมขนมลูกชุบ

• ถั่วเขียวเลาะเปลือกออกนึ่งสุกประมาณ 30 นาที บดละเอียด 2 1/2 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1 1/2 ถ้วย
• หัวกะทิ 2 ถ้วย
• น้ำดอกไม้สด 1 ถ้วย
• เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
• น้ำ 2 ถ้วย
• วุ้นผง 2 ข้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
• สีผสมอาหาร

วิธีทำลูกชุบ

1. ต้มน้ำตาลทรายกับเกลือ ในน้ำดอกไม้สด เมื่อน้ำเดือดและน้ำตาลละลายหมดยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง แล้วยกขึ้นตั้งไฟใหม่
2. ใส่น้ำเชื่อมและถั่วบดในกระทะทองเหลืองยกขึ้นตั้งไฟอ่อนถึงปานกลาง กวนด้วยพายไม้ตลอดเวลา เมื่อถั่วเริ่มข้นหรี่ไฟลง เติมหัวกะทิกวนต่อจนถั่วแห้งล่อนไม่ติดกระทะยกลงพักไว้ให้เย็น และอย่าให้ถั่วไหม้ หรือ เหลวเกินไปนะคะ
3. ปั้นถั่วกวนเป็นรูปผลไม้เล็กหรือผักให้เหมือนของจริงเช่น มะยม มะม่วง ชมพู่ ส้ม แตงโมผ่าซีก มะเขือ พริกชี้ฟ้า แครอท เป็นต้น หรือปัจจุบันอาจจะเป็นเป็นตัวการ์ตูน เช่นโดเรม่อน หมี แมว เป็นต้น แล้วผสมสีสำหรับใส่อาหารในน้ำเล็กน้อยให้ออกสีอ่อนๆ ระบายบนถั่วที่ปั้นไว้ตามสีผลไม้จริงวางเรียงกันพักไว้
4. ใส่น้ำ 2 ถ้วยในหม้อเล็กๆ โรยผงวุ้นลงในน้ำตั้งทิ้งไว้ 10 นาที ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ หมั่นคนจนวุ้นละลายหมด จึงเติมน้ำตาลลงไปแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง
5. นำถั่วที่ปั้นไว้และลงสีแล้วลงชุบในหม้อวุ้น โดยใช้ไม้ปลายแหลมหรือไม้เสียบลูกชิ้นเสียบถั่วกวนแล้วจุ่มลงในหม้อ เมื่อชุบจนทั่วแล้ว นำมาเสียบปักไว้บนโฟม เมื่อเย็นวุ้นจะแข็งตัว ให้ชุบอีกครั้งผิวจะเป็นเงาขึ้น หลังจากแห้งดีแล้ว จัดใส่กล่องไว้รับประทาน หรือ เตรียมนำออกขายได้เลยค่ะ

สาระน่ารู้เกี่ยวกับการทำลูกชุบ ขนมไทย

• ก่อนการนึ่งถั่ว ควรนำถั่วแช่น้้ำ 3 – 4 ชั่วโมง หรือข้ามคืนก็ได้ ก่อนนำมานึ่งก็ล้างถั่วอีก 1 – 2 ครั้ง

ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ วิธีทำลูกชุบ ขนมไทย แสนอร่อย สร้างอาชีพ สำหรับเพื่อนๆที่นำสูตรนี้ไปทำขาย ขอให้เพื่อนๆ ประสบความสำเร็จ แล้วก็ขายดีนะคะ หวังว่าข้อมูลในวันนี้จะเป็นประโยชน์ทำให้เพื่อนๆไปต่อยอดหารายได้สร้างอาชีพต่อไปค่ะ สำหรับบทความต่อไปจะเป็นขนมอะไร อย่าลืมติดตามกันนะคะ วันนี้ลาไปก่อนแล้ว สวัสดีค่า

The post วิธีทำ ลูกชุบ ขนมไทย แสนอร่อย สร้างอาชีพ appeared first on ขนมหวาน.

เรามาดู วิธีทําข้าวเหนียวมูน ทานคู่กับ มะม่วงน้ำดอกไม้ หรือ มะม่วงอกร่อง กันค่ะ

วิธีทำ ข้าวเหนียวมะม่วง หรือ ข้าวเหนียวมูน นี้ แต่ก่อนการเลือกข้าวอาจะใช้ข้าวเหนียวเม็ดสวยๆในการทำ แต่ปัจจุบันเราขอแนะนำให้ใช้ ข้าวเหนียวเขี้ยวงู นะคะ สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายข้าวสาร ไข่ไก่ ทั่วไปค่ะ ซึ่งลักษณะของข้าวเหนียวเขี้ยวงูนี้ เป็นข้าวเม็ดรีๆ สีขาว อย่าซื้อข้าวเหนียวสีเหลืองๆมานะคะ นั่นแสดงว่า ข้าวเหนียวเก่าค่ะ เอาล่ะ เกริ่นมาซะยาว เรามาเริ่มวิธีทำขนม กันเลยดีกว่าค่ะ

อุปกรณ์สำหรับทำข้าวเหนียวมูน

• รังถึงสำหรับนึ่งข้าวเหนียว หรือ หวด
• ผ้าขาวบาง
• กระทะทองเหลืองสำหรับมูนข้าวเหนียว
• กระทะ ตะหลิว สำหรับคั่วถั่วเขียวซีก

ส่วนผสม ข้าวเหนียวมูน

• ข้าวเหนียวเม็ดสวยๆ หรือ ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 500 กรัม
• มะพร้าวขูดขาว 500 กรัม
• เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
• ใบเตยหอม 2 ใบ
• ถั่วเขียวซีก หรือซื้อแบบที่คั่วมาแล้วก็ได้

วิธีทำ ข้าวเหนียวมูน สำหรับทานคู่กับ มะม่วง

1. แช่ข้าวเหนียวข้ามคืนหรืออย่างน้อย 3 ชั่วโมง ถ้าเป็นข้าวใหม่แช่ข้าวเหนียวประมาณ 1 ชั่วโมง ใช้สารส้มในการขัดเม็ดให้ขาว ล้างจนกว่าน้ำที่ล้างออกมาใส ไม่ขาวขุ่น
2. ใส่ตะแกรงพักให้สะเด็ดน้ำ ใส่ลงในลังถึง หรือหวดนึ่งข้าวเหนียวที่ปูด้วยผ้าขาวบาง ใส่ใบเตยหอมประมาณ 2 ใบ นึ่งในน้ำเดือดไฟแรงนาน 25 -30 นาที แล้วกลับ
   หน้าข้าวเหนียวนึ่งต่ออีกประมาณ 10 นาที หรือจนสุก
3. คั้นมะพร้าว โดยใส่ในน้ำอุ่น 1 ถ้วย คั้นให้ได้กะทิ 2 1/4 ถ้วย หรือ ซื้อกะทิกล่องมาก็ได้นะคะ
4. ผสมกะทิ เกลือ และน้ำตาลเข้าด้วยกันในอ่างผสม คนให้ละลาย กรองด้วยผ้าขาวบาง ใส่ลงในหม้อ หรือกระทะทอง ยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง หมั่นคนอย่าให้จับกันเป็นก้อน
   พอเดือดปิดไฟ แบ่งกะทิที่เคี่ยวไว้ 3/4 ถ้วย สำหรับราดหน้าข้าวเหนียวตอนจะรับประทาน
5. เมื่อข้าวเหนียวสุก ตัดใส่ภาชนะที่มีฝาปิด ใส่กะทิที่เหลือขณะร้อนๆ คนให้เข้ากัน แล้วปิดฝาให้สนิท จนข้าวเหนียวดูดน้ำกะทิจนแห้ง แต่ข้าวเหนียวจะเป็นเงาวาว
6. เมื่อจะรับประทาน ตักข้าวเหนียวใส่จาน ราดหน้าด้วยกะทิที่แบ่งไว้ ตามด้วย เช่น หน้ากุ้ง หน้าปลาแห้ง หน้าสังขยา หน้ากระฉีก มะม่วงสุก แล้วแต่เพื่อนๆได้เลยจ้า
   แต่ในวันนี้ เราเลือกเป็น ข้าวเหนียวมะม่วง จึงมีอีกวัตถุดิบเพิ่มเติมคือถั่วทอง หรือถั่วเขียวซีกโรยบนหน้าข้าวเหนียวเพื่อเพิ่มความกรุบกรอบค่ะ

สาระน่ารู้เกี่ยวกับ ข้าวเหนียวมูน ข้าวเหนียวมะม่วง

• เวลามูนข้าวเหนียว ต้องให้ข้าวเหนียวและกะทิร้อน เพราะถ้าเย็นข้าวเหนียวจะไม่ดูดกะทิและจะแฉะ
• การนึ่งข้าวเหนียวควรใช้หวดนึ่งข้าวเหนียวแบบร้านส้มตำในการนึ่ง เพื่อให้ข้าวเรียงตัวสวย
• สำหรับเพื่อนๆที่มีไอเดียทำข้าวเหนียวหลากสี ก็ให้ใส่สีตอนที่เราแช่ข้าวเหนียวนะคะ เช่น หากอยากได้สีเขียวให้ใช้น้ำใบเตยผสมสีเขียวแช่ข้าวเหนียว เป็นต้น
• ถั่วทอง หรือถั่วเขียวซีกนั้น หาซื้อได้ตามตลาดทั่วไป หรือตามห้างค้าปลีกก็มีนะ วิธีทำคือนำถั่วเขียวซีกแช่น้ำ ประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วช้อนขึ้นสะเด็ดน้ำ นำไปคั่วในกระทะ
  ใช้ไฟอ่อนนะคะ คั่วจนแห้งกรอบ ระวังอย่าให้ไหม้นะ สำหรับเราเราจะคั่วซักพักพอเริ่มสีเข้มขึ้นนิดเดียวก็ลองหยิบขึ้นมาชิมถ้ากรอบใช้ได้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ ดูเหมือนขั้นตอนจะเยอะใช้ได้เลยนะ ทำให้รู้ว่า กว่าจะมาเป็นข้าวเหนียวมูนที่ขายตามท้องตลาด ให้พวกเราได้ทานกันนั้น กรรมวิธีซับซ้อนขนาดไหน ซึ่งถ้าดูจากขั้นตอนการทำแล้วหากแค่อยากทำทานกันในครอบครัว คิดว่าซื้อมารับประทานน่าจะสะดวกกว่า เราขอแนะนำ ร้านข้าวเหนียวมะม่วงโชคชัย4 ชื่อ ร้าน ช.ศรแก้ว นะคะ อร่อยจริง เราทานตั้งแต่เด็กๆเลย หากเพื่อนๆ อยากนำสูตรนี้ไปทำขาย ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความ วิธีทำ ข้าวเหนียวมูน ทานคู่กับ ข้าวเหนียวมะม่วง ขนมไทย ทำง่าย สุดปัง จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ วันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่บทความหน้านะคะ สวัสดีค่า

The post วิธีทำ ข้าวเหนียวมูน ทานคู่กับ ข้าวเหนียวมะม่วง ขนมไทยสุดปัง appeared first on ขนมหวาน.

วันนี้เรามีสูตรบ้าบิ่นแบบทำขายมาฝากเพื่อนๆกันค่ะ

ขนมบ้าบิ่น หรือ แป้งจี่ ซึ่งบางร้านเช่นในตลาดดอนหวาย จะทำเป็นแป้งจี่กล้วย ซึ่งส่วนผสมจะใช้กล้วยผสมร่วมกับมะพร้าว หรือ แป้งจี่เฉยๆ ก็คือตัวเดียวกับขนมบ้าบิ่น นั่นเอง เราไปดูกันเลยว่า วิธีทำขนมไทย อย่าง บ้าบิ่น มีวิธีการทำอย่างไรบ้าง แอบกระซิบว่า ไม่ยากเลยค่ะเพื่อนๆ ไปดูกันเลยกับ แจกสูตรวิธีทำ ขนมบ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน ขนมไทยทำง่ายขายดี กันค่ะ

ส่วนผสมขนมบ้าบิ่น สำหรับทำขาย

• มะพร้าวขูด 530 กรัม โดยใช้มะพร้าวทึนทึก อย่าใช้มะพร้าวอ่อนมาก หรือแก่จนเกินไป
• แป้งข้าวเหนียว 250 กรัม
• น้ำตาลทรายขาว 200 กรัม ถ้าสูตรโบราณ จะใช้น้ำตาลปี๊ป
• เกลือป่น 1/3 ช้อนชา
• น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง ถ้าใครจะทำเป็นบ้าบิ่นใบเตย ก็สามารถเปลี่ยนจากน้ำเปล่าเป็นน้ำใบเตยก็ได้นะคะ
• น้ำมันพืช หรือน้ำมันหมูก็ได้นะคะ
• หากอยากให้มีสีสัน อาจจะผสมแป้งข้าวเหนียวดำเพิ่มเติม ประมาณ 15 กรัม

วิธีทำขนมบ้าบิ่น

• นำส่วนผสมทั้งหมดเทลงไปในหม้อ
• สำหรับมะพร้าวค่อยๆนำลงไปขยำกับส่วนผสมในหม้อ ให้ขยำจนส่วนผสมละลายเข้ากัน
• เติมมะพร้าวส่วนที่เหลือ เข้าไปในหม้อ
• ล้างมือให้สะอาด ใช้มือขยำ อย่าให้แป้งเหลวเกินไป โดยดูให้เหมือนกับมีแป้งเกาะอยู่ที่เนื้อมะพร้าว โดยไม่มีน้ำเหลวออกมา
• เปิดเตาตั้งไฟโดยใช้ไฟอ่อน ใช้กระทะ หรือ เตาแบบเตาทำโตเกียวก็ได้
• ใช้น้ำมันถั่วเหลือง หรือน้ำมันหมู หยอดแล้วเกลี่ยให้ทั่วกระทะ อย่าใช้น้ำมันเยอะเกินไป สำหรับเพื่อนๆที่ใช้พิมพ์ ให้วางพิมพ์ลงไปขณะที่กระทะร้อนแล้วเพื่อเป็นการถ่ายเทความร้อนให้กับพิมพ์ เพื่อไม่ให้ขนมติดพิมพ์
• เมื่อเตาร้อนแล้วก็หยอดไปเลยค่า สำหรับขนาดแล้วแต่เพื่อนๆกะเอาเลยค่ะ สำหรับเรา ใช้ 1 ช้อนโต๊ะในการหยอด ระหว่างหยอดต้องกวนแป้งที่อยู่ในหม้อด้วยเพื่อไม่ให้น้ำไปกองอยู่ก้นหม้อ
• หลังจากที่กลับหน้าขนมแล้ว ให้กดขนมลงไปให้แบนหน่อย เพื่อให้ได้รับความร้อนทั่วถึงกัน
• หลังจากกลับหน้าขนมไปมาแล้วลองกดว่ามีน้ำหรือไม่ ถ้าไม่มีและหน้าขนมเริ่มสุกกรอบดีแล้ว ก็ตักขึ้นมาพักไว้ในถาดได้เลยค่ะ โดยสัดส่วนของขนมที่ทำได้ จะได้ประมาณ 48 – 50 ชิ้นค่ะ

สาระน่ารู้ วิธีเลือกใช้มะพร้าวในการทำขนมบ้าบิ่น

ถ้าเราใช้มะพร้าวอ่อนเพียงอย่างเดียว ทำขนมบ้าบิ่น ขนมจะแฟ่บ ถ้าอยากให้ขนมดูหนากรอบ ควรใช้มะพร้าวทึนทึกขูด หรือ ทั้ง 2 ชนิดร่วมกันก็ได้ค่า

จบกันไปแล้วกับ วิธีทำขนมไทย ชื่อดังข้ามประเทศ อย่าง ขนมบ้าบิ่น นะคะ เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อนๆ ไม่ยากเลยใช่มั้ยคะ สุดท้ายนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเรื่อง แจกสูตรวิธีทำ ขนมบ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน ขนมไทยทำง่ายขายดี จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาอาชีพเสริม หรือ กำลังคิดเปิดร้านขนมเป็นของตัวเอง นะคะ โอกาสหน้าจะนำเสนอขนมอะไรนั้น เพื่อนๆอย่าลืมติดตามนะคะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ

The post แจกสูตร วิธีทำ ขนมบ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน ขนมไทยทำง่าย ขายดี appeared first on ขนมหวาน.

เรามาดูวิธีการทำ ขนมอาลัว กันค่ะ

ก่อนอื่นการเลือกสีสำหรับทำขนมอาลัว เพื่อนๆ สามารถเลือกสีสมุนไพร สีธรรมชาติจากดอกไม้ หรือ สีผสมอาหาร ก็ได้นะคะ และหัวบีบเพื่อนๆสามารถเลือกหัวบีบแบบเดียวกับคุ้กกี้ ทำเป็นรูปอาลัวดอกไม้ อาลัวกุหลาบ หรือจะใช้พิมพ์ตัด หรือพิมพ์ซิลิโคนที่สามารถอบหรือตากแดดได้ สำหรับทำเป็น อาลัวการ์ตูน ก็ได้ค่ะ คราวนี้เรามาลองดูส่วนผสมและวิธีทำกันค่ะ

ส่วนผสม ขนมอาลัว สำหรับทำขาย

• แป้งสาลีชนิดเบา หรือแป้งเค้ก 500 กรัม
• มะพร้าวขูดขาว 1 1/2 กิโลกรัม หรือ เพื่อความสะดวกสามารถใช้กะทิกล่อง ในปริมาณ 1 1/4 ถ้วย ก็ได้นะคะ
• น้ำลอยดอกมะลิ 6 1/2 ถ้วย
• น้ำตาลทรายขาวเม็ดใหญ่ 2 กิโลกรัม
• สีโกโก้หรือสีเขียวใบเตจย

ส่วนผสม ขนมอาลัว สำหรับทำกินเองในครอบครัว

• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 10 ช้อนโต๊ะ
• มะพร้าวขูดขาว 300 กรัม
• น้ำตาลทราย 1 1/4 ถ้วย
• สีโกโก้หรือสีเขียวใบเตย

วิธีทำขนมอาลัว สูตรสำหรับทำกินเองในครอบครัว

• คั้นมะพร้าวโดยใส่น้ำลอยดอกมะลิ 1/2 ถ้วย คั้นให้ได้กะทิ 1 1/4 ถ้วย หรือเตรียมกะทิกล่อง 1 1/4 ถ้วย
• ร่อนแป้งสาลี แล้วตวงให้ได้ 10 ช้อนโต๊ะ ใส่ในอ่างผสม ใส่น้ำตาล เคล้าให้เข้ากัน
• ใส่กะทิทีละน้อย นวดจนน้ำตาลละลายและใส่จนกะทิหมด กรองด้วยผ้าขาวบาง ใส่ลงในกระทะทอง ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางค่อนข้างอ่อน กวนเร็วๆจนแป้งสุกใสไม่ขุ่น และเริ่มล่อนจากกระทะ ใส่สีโกโก้ หรือสีเขียวใบเตยที่เราเตรียมไว้ ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ปิดไฟ ยกลงทิ้งไว้ให้คลายร้อน ตักหยอดหรือตักใส่ถุงบีบ บีบลงในถาดที่ทาน้ำมันบางๆ นำไปตากแดดจนผิวด้านนอกแข็งตัว แต่เนื้อขนมด้านในยังนุ่มก็เป็นอันใช้ได้ โดยตากแดดประมาณ 1- 3 วัน ค่ะ หรือเพื่อนๆบางคนอาจใช้เตาอบในการอบก็ได้นะคะ หากใช้เตาอบก่อนอื่นให้วอร์มเตาประมาณ 80 องศาเซลเซียส ใช้เวลาอบประมาณ 5 – 6 ชั่วโมงค่ะแซะเก็บใส่ขวดโหล สำหรับเพื่อนๆบางคนชอบกลิ่นควันเทียน สามารถนำไปอบควันเทียนได้นะ หลังอบควันเทียน ใส่กระปุกปิดฝาให้สนิท หรือแพ็คใส่กระปุกสำหรับทำเป็นแพ็คเกจ วางขายกันเลย ถือว่าเป็นอันเสร็จสิ้นค่ะ

จบกันไปแล้วกับสูตรขนมอาลัว เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ทำไม่ยากเลยใช่มั้ย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า แนะนำสูตร ขนมอาลัว ขนมหวานไทยสีสันน่ากิน ในวันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆไม่มากก็น้อยนะคะ โอกาสหน้าจะนำเสนอขนมอะไรอย่าลืมติดตามกันนะคะ สวัสดีค่ะ

The post แนะนำสูตร ขนมอาลัว ขนมหวานไทยสีสันน่ากิน appeared first on ขนมหวาน.

เรามาดูวิธีทำวุ้นกรอบสูตรดั้งเดิมกันดีกว่าค่ะ

เพื่อนๆบางคนอาจมีไอเดียทำเป็น วุ้นกรอบสมุนไพร โดยส่วนใหญ่มักจะนำ น้ำเก๊กฮวย น้ำมะตูม น้ำอัญชัน น้ำขิง น้ำตะไคร้ มาใช้ในการทำเป็นขนมวุ้นกรอบสมุนไพร ค่ะ

ส่วนผสมของขนมวุ้นกรอบ

• ผงวุ้น 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
• แป้งท้าวยายม่อม 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทรายเบเกอร์รี่ 2 ถ้วยตวง
• น้ำลอยดอกมะลิ หรือน้ำแต่งกลิ่นมะลิ 2 ถ้วย
• กลิ่น สี ผสมอาหาร

อุปกรณ์สำหรับทำขนมวุ้นกรอบ

• มีดตัดแบบหยัก
• พิมพ์ทำขนม

วิธีทำขนมวุ้นกรอบ

• นำผงุว้นแช่น้ำลอยดอกมะลิ ใส่กลิ่นมะลิ รอให้ผงวุ้นดูดน้ำ 15 นาที
• นำมาต้มให้วุ้นสุกใส ใช้ไฟกลาง คนเรื่อยๆสม่ำเสมอ จนวุ้นใสเลยนะคะ
• เติมน้ำตาลทรายเบเกอร์รี่ สีและกลิ่น เคี่ยวจนเริ่มเดือด วุ้นเริ่มเหนียว ค่อยๆเติมแป้งทัาวยายม่อม
  ที่ผสมน้ำเล็กน้อย โดยเติมทีละน้อย และคนต่อเนื่องจนหมด รอจนวุ้นข้นเหนียวและแป้งที่ผสมอยู่สุกแล้วจึงดับไฟ
• เทใส่พิมพ์ รอวุ้นแห้งเซ็ทตัว
• แกะออกจากพิมพ์ ใช้มีตัดแบบหยักหั่นเป็นลูกเต๋า โดยให้ขนาด 1.5 เซนติมเตร หรือเพื่อนๆคนไหนมีไอเดียใช้พิมพ์ทำคุ้กกี้ ตัดออกมาเป็นรูปทรงต่างๆ ก็ได้นะคะ จากน้ำ
• นำไปตากแดด ให้แห้ง ประมาณ 2 – 3 วัน โดยสังเกตว่าวุ้นแห้ง กรอบนอก นุ่มใน
• จัดใส่ในกล่องเตรียมวางขายได้เลยค่า

สาระน่ารู้เกี่ยวกับขนมวุ้นกรอบ

การใช้แป้งท้าว หรือ แป้งท้าวยายม่อม ในการใช้ทำขนมวุ้นกรอบ จะช่วยให้ขนมมีเนื้อเนียน เหนียว แข็ง เวลาตัดออกมาเป็นก้อนๆ จะดูเนียนน่ารับประทาน

เป็นยังไงบ้างคะเพื่อนๆ ดูแล้วไม่ยากเลยใช่มั้ยคะ สุดท้ายนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่า วิธีทำขนมวุ้นกรอบ ขนมไทย ในวันนี้ จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะคะ โอกาสหน้าจะนำเสนอเป็นขนมไทย ขนมหวาน แบบไน อย่าลืมติดตามกันนะคะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่า

The post แนะนำ วิธีทำวุ้นกรอบ ขนมไทย กรอบนอกหนุบใน appeared first on ขนมหวาน.